ในชีวิตของคนเรามีค่าใช้จ่ายอยู่ไม่กี่อย่าง ที่ทำให้คนล้มละลายมานักต่อนัก หนึ่งในนั้นคือ “ค่ารักษาพยาบาล” หลายครั้งเราจึงมักได้เห็น ได้ยินคนพูดว่า “ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชน” มักจะมีคนแย้งทำไมไม่รักษาโรงพยาบาลรัฐ
อย่างที่เรารู้กันดี โรคบางโรค อาการบางอาการ หากรอโรงพยาบาลรัฐซึ่งคิวยาวมาก อาจจะสายเกินไป ค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวนี้นอนโรงพยาบาลไม่กี่คืน ทำเอากระเป๋าฟีบได้เหมือนกัน คนที่จ่ายไหว มีประกันก็ดีไป แต่ในคนที่ไม่มี จะทำอย่างไรดีล่ะ? ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชน ใช้วิธีการกู้เงินดีไหม
ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชน จะเกิดอะไรขึ้น
ไม่ใช่ทุกคนจะมีเงินทองมากมายที่จะพอจ่ายค่ารักษาพยาบาล คนที่มีสภาพคล่องทางการเงินส่วนมากจะมีประกันสุขภาพ แต่ในรายที่ไม่มีประกัน ก็ต้องจ่ายเงินสด แน่นอนว่าค่ารักษาพยาบาลส่วนใหญ่เป็นเงินก้อนใหญ่ ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินมาว่า หนี้ค่ารักษาพยาบาล แม้ว่าตัวตายไปแล้ว แต่หนี้ก็ยังไม่จบ เพราะหลายโรงพยาบาล หากทางญาติยังไม่จ่ายค่ารักษาให้ครบ ศพก็จะถูกอายัด นำออกไปประกอบพิธีกรรมไม่ได้
สิ่งที่เราได้ยินมานั้น ในความเป็นจริงแล้ว โรงพยาบาลไม่มีสิทธิ์กักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ให้เราออกจากโรงพยาบาลได้ โดยหลักแล้ว ก่อนการรับการรักษา โรงพยาบาลจะมีการ Pre-screen ก่อน ว่าคนไข้มีสิทธิการรักษาพยาบาลอะไรบ้าง เพื่อดำเนินการไปตามสิทธิเป็นอันดับแรก เพื่อคัดกรองความสามารถในการชำระเงินเบื้องต้น แต่หากต้องรักษาต่อเนื่อง ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชน ทางโรงพยาบาลจะดำเนินการดังนี้
- โรงพยาบาลจะเจรจากับญาติคนไข้ เพื่อให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามระยะเวลาที่กำหนด
- หากไม่สามารถจ่ายเป็นเงินก้อนเดียวได้ จะให้ผ่อนชำระรายเดือน
- หากผ่อนชำระรายเดือนแล้ว แต่ยังจ่ายได้ไม่ครบ โรงพยาบาลจะคิดดอกเบี้ย คล้าย ๆ กับธนาคารที่จ่ายล่าช้าเกินกำหนด ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยเพิ่ม
- หากโรงพยาบาลไม่ได้รับเงินจริง ๆ โรงพยาบาลอาจดำเนินคดีทางกฎหมาย
สิ่งที่ควรรู้ ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชน
เรื่องเงินทองเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งฝ่ายที่รับบริการและฝ่ายที่ให้บริการ ดังนั้นแล้ว หากคุณเช็กสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองแล้วว่าไม่มีความสามารถพอจะจ่ายค่ารักษาจริง ๆ ลองดูเทคนิคดังต่อไปนี้
1. ตรวจสอบสิทธิที่ตัวเองมี
น้อยคนนักจะรู้ว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิในการรักษา หรือที่เราเรียกว่า “บัตรทอง” สามารถยื่นบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อตรวจสอบสิทธิ หรือเช็กเองได้ที่ https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml หากไม่มั่นใจสามารถสอบถามไปที่แผนกเวชระเบียนของทางโรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบและรับคำแนะนำได้ ซึ่งบัตรทองนั้น สำหรับอุบัติเหตุ สามารถเข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้ โดยไม่ถูกปฏิเสธหรือถูกเรียกเก็บเงิน แต่หากเป็นการเจ็บป่วย จะต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ระบุเอาไว้ ในกรณีที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด ไม่มีเงินรักษาพยาบาลเอกชน อย่างน้อยก็ยังมีบัตรทอง
2. เช็กค่าใช้จ่ายให้ชัวร์
หลายครั้งเรามักเห็นกรณีที่ค่าใช้จ่ายไม่ตรงตามที่รักษา ยิ่งหากคุณไม่มีเงินรักษาพยาบาลเอกชน คุณยิ่งต้องรอบคอบเกี่ยวกับรายละเอียดตรงนี้ให้ดี อาจจะพบรายการที่คุณไม่คุ้น ให้ติดต่อกับแผนกการเงินของโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
3. อย่ารีบเซ็นเอกสาร
บางคนยังอ่านเอกสารไม่ถี่ถ้วนก็รีบเซ็นเอกสารไป นั่นจะส่งผลเสียในภายหลังได้ ลำพังที่คุณไม่มีเงินรักษาพยาบาลเอกชนก็ว่าแย่แล้ว ถ้าคุณผลีผลามเซ็นโดยไม่ดู อาจจะต้องแบกหนี้ก้อนโตที่คุณไม่รู้ไปอีกนาน ดังนั้น เมื่อฝ่ายการเงินส่งเอกสารให้คุณตรวจสอบ ก่อนการเรียกเก็บเงินจริง จุดไหนไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจ ให้แย้งและสอบถามให้ชัดเจนเสียก่อน หากยังไม่แน่ใจ ไม่ควรเซ็นเอกสารเด็ดขาด
4. บัตรเครดิต ตัวก่อหนี้ระยะยาว
บัตรเครดิตคือการหยิบยืมเงินในอนาคต เคยได้ยินบางคนพูดว่า ไม่มีเงิน ให้บัตรเครดิตจ่ายไปก่อน ประโยคนี้อันตรายมาก ๆ แม้ว่าบัตรเครดิตจะช่วยเราเคลียร์หนี้ที่เราไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชนได้ก็จริง แต่หลังจากนั้น เราจะกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตแทน สิ่งที่น่ากลัวสำหรับการใช้บัตรเครดิต คือ หากเราไม่ชำระหนี้ตามที่ธนาคารกำหนด เราจะต้องแบกรับภาระจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นมากถึง 18-28% ต่อปี หากคิดจะใช้บัตรเครดิตจ่าย คุณจะต้องถามตัวคุณเองให้แน่ใจว่า คุณจะมีความสามารถในการจ่ายหนี้หรือไม่
5. กู้เงินเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ทางเลือกสุดท้ายสำหรับใครที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชน คือ “การกู้เงิน” ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีสินเชื่อมากมายให้เลือก ในกรณีสามารถเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือรถยนต์ ซึ่งจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูก มีระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ยาวนาน ส่วนเรื่องของวงเงินนั้นก็ขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้กู้และประวัติเครดิตบูโรเป็นหลัก
ท้ายที่สุดแล้ว หากคุณไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอกชน การกู้เงินเป็นทางเลือกที่ดีและได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูก และยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้คุณในช่วงระยะเวลาหนึ่งอีกด้วย สิ่งสำคัญอย่าหลงไป
กู้เงินนอกระบบ หรือหลงในกลยุทธ์การตลาดที่เอาโปรโมชั่นมาหลอกล่อโดยเด็ดขาด แนะนำให้เลือกสถาบันทางการเงินที่เชื่อถือได้จะปลอดภัยที่สุด