ไม่ว่าคุณจะเจอกับการทวงหนี้ผ่านโทรศัพท์ ที่อาจเป็นแกงค์ทวงหนี้หลอกลวง หรือดาวน์โหลดแอปยืมเงินนอกระบบมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ถูกคุกคามทวงหนี้ทุกวัน ไม่มั่นใจว่าต้องจ่ายเงินหรือไม่ ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีรับมือกับแอปทวงหนี้ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและตัวคุณเอง
นี่คือ 9 วิธีรับมือกับแอปทวงหนี้
- อย่าเพิ่งตกใจ ตั้งสติเอาไว้ สำคัญที่สุด
- ติดตั้ง Whoscall เพื่อไว้ดูว่าเบอร์ที่โทรมาหาคุณเป็นใคร
- บันทึกข้อมูลหลักฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- แจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้กับสถานีตำรวจ
- ในกรณีที่จะจ่ายคืน จ่ายคืนเฉพาะเงินต้นที่ยืมมา
- ลบแอปทวงหนี้ เคลียร์ข้อมูลทั้งหมดออกจากเครื่อง
- ในกรณีที่ยังถูกคุกคามไม่สิ้นสุด เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ
- แชร์ประสบการณ์ให้กับคนอื่น ๆ
- กรณีต้องกู้เงินจริง ๆ แนะนำให้กู้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินถูกกฏหมาย
เนื่องจากปัจจุบันแกงค์ทวงหนี้ และแอปกู้ยืมเงินนอกระบบนั้นค่อนข้างระบาด และมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ปราบปรามยาก เพราะส่วนใหญ่แกงค์นี้มักจะเป็นชาวต่างด้าว หรือชาวไทยเองที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทำให้การดำเนินการจับกุมทั้งหมด ทำได้ยาก 9 วิธีรับมือนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเหล่านี้กับคุณ มาดูรายละเอียดแต่ละวิธีกันเลย
1. อย่าเพิ่งตกใจ ตั้งสติเอาไว้ สำคัญที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาทุกเรื่องเลยก็คือการมีสติ ถ้าเราได้รับโทรศัพท์จากแก๊งทวงหนี้แล้วตกใจ อาจ จะไม่ทันคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดที่เขาเล่าในโทรศัพท์นั้นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องโกหก อาจจะทำให้เรายินยอมทำตามทุกอย่างที่เขาบอกก็ได้ เช่นขอชื่อ ที่อยู่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์มือถือ หมายเลขบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือเลขรหัสผ่านต่าง ๆ ที่ทางมิจฉาชีพอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้
รู้เขารู้เรา: หน้าที่ของแกงค์มิจฉาชีพคือทำตัวเองให้เหมือนกับบริการจากธนาคารมากที่สุด เพื่อที่จะสามารถหลอกลวงเราได้ สิ่งที่เราต้องรู้ก็คือ ทางธนาคารจริง ๆ จะไม่โทรติดต่อเราเพื่อขอเลขบัญชีหรือรหัสผ่านจากเราแน่นอน ฉะนั้นหากใครโทรมาถามเรื่องนี้ 100% คือมิจฉาชีพ
ในกรณีที่เรามีสติเราก็จะสามารถฉุกคิดได้ว่าสิ่งที่เขาเล่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง และเราสามารถปฏิเสธหรือวางโทรศัพท์ไปได้เลยไม่ต้องเสียเวลาคุย
2. ติดตั้ง Whoscall เพื่อไว้ดูว่าเบอร์ที่โทรมาหาคุณเป็นใคร
Whoscall เป็นแอปที่ช่วยให้คุณรู้ได้ว่าคนที่โทรมาหาคุณเป็นใคร ผ่านการระบุของกลุ่มผู้ใช้ด้วยกันเอง เมื่อมีสายโทรเข้ามา จะโชว์ให้เห็นว่าเบอร์นี้เป็นของใคร Call Center, มิจฉาชีพ, บริษัทส่งพัสดุ ซึ่งง่ายต่อการที่คุณจะตรวจสอบ ฉะนั้นจึงขอให้คุณโหลดแอปนี้มาลงเครื่องไว้ แอปนี้ฟรีไม่มีค่าบริการใด ๆ เพิ่มเติม ดาวน์โหลดได้ที่ https://whoscall.com/th
3. บันทึกข้อมูลหลักฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อรับสายโทรศัพท์แล้ว หรืออาจจะไปโหลดแอปกู้เงินนอกระบบมา ให้คุณทำการบันทึกข้อมูลหลักฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น เวลาไหนมีใครโทรมา พูดว่าอะไรบ้าง เบอร์โทรอะไร แอปทำอะไรได้บ้าง เก็บไว้เป็นข้อมูลหลักฐานเพื่อนำไปใช้แจ้งความ ลงบันทึกประจำวันได้
4. แจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้กับสถานีตำรวจ
คุณสามารถแจ้งความได้ในข้อหา ฉ้อโกง, คิดดอกเบี้ยเกินกฏหมายกำหนด สำหรับแอปทวงหนี้เหล่านั้น การลงบันทึกประจำวันเอาไว้จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองจากสถานีตำรวจ และยิ่งมีหลักฐานมากเท่าไหร่ ทางตำรวจจะได้นำข้อมูลเหล่านั้นไปสืบค้นเพื่อค้นหาตัวผู้กระทำความผิดได้ในอนาคต
- มีบริการแจ้งความออนไลน์ สำหรับคดีเหล่านี้โดยเฉพาะที่ https://thaipoliceonline.com/
5. ในกรณีที่จะจ่ายคืน จ่ายคืนเฉพาะเงินต้นที่ยืมมา
สำหรับบางคนก็อาจจะยืมเงินจากแอปเงินกู้นอกระบบไปแล้ว และได้เงินมาใช้จริง ๆ เพื่อจบเรื่องก็แนะนำให้จ่ายคืน แต่จ่ายเฉพาะเงินที่ยืมมา ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ลงบันทึกหลักฐานเอาไว้
เกร็ดความรู้: ทางเจ้าหนี้ที่เป็นเจ้าหนี้นอกระบบสามารถฟ้องแจ้งความเราได้ในกรณีที่เรายืมเงินแล้วไม่คืน แต่เมื่อแจ้งความแล้วอัตราดอกเบี้ยจะเปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยนอกระบบที่ขูดรีด เป็นอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี โดยส่วนใหญ่เจ้าหนี้จึงเลือกที่จะไม่ฟ้อง เพราะการฟ้องร้องตัวเขาเองก็มีโอกาสได้รับการจับกุมจากการฉ้อโกงเหมือนกัน
6. ลบแอปทวงหนี้ เคลียร์ข้อมูลทั้งหมดออกจากเครื่อง
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดตามข้อที่ผ่านมา แนะนำให้ลบแอปทวงหนี้ออกจากเครื่อง
วิธีลบแอป ใน Android
- ไปที่เมนู Setting (ตั้งค่า)
- เลือก Apps (แอปส์)
- เลือกโปรแกรมที่ต้องการลบ
- กด Uninstall ลบออกจากเครื่อง
วิธีลบแอป ใน iOS
- กดไอคอน Apps ค้างไว้
- เลือก ถอนการติดตั้ง, Remove App
- ระบบจะสอบถามว่าจะลบหรือไม่ ให้กด ลบออก หรือ Delete
7. ในกรณีที่ยังถูกคุกคามไม่สิ้นสุด เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ
เนื่องจากข้อมูลบางอย่าง เราได้ให้กับมิจฉาชีพไปแล้ว และถูกบันทึกเข้าสู่ระบบฝั่งของเขาไปแล้ว การลบแอปอาจจะยังไม่เพียงพอ เขาสามารถใช้เบอร์โทรของเขาโทรหาเราได้อีก และบางครั้ง Whoscall อาจจะไม่โชว์แจ้งเตือน กรณีที่ถูกคุกคามไม่สิ้นสุดแบบนี้ แนะนำให้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือจะดีกว่า แต่ควรเปลี่ยนหลังจากที่ได้ลบแอป ออกไปแล้ว
8. แชร์ประสบการณ์ให้กับคนอื่น ๆ
เนื่องจากแกงค์มิจฉาชีพยังคงทำงานต่อเนื่อง แอปกู้เงินนอกระบบก็ยังคงระบาด แนะนำให้แชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ คนรอบตัว แชร์ผ่าน Facebook, Tiktok เพื่อทำให้ผู้ที่ยังไม่ประสบปัญหาได้ตื่นตระหนกและรู้วิธีป้องกันตัวเอาไว้
9. กรณีต้องกู้เงินจริง ๆ แนะนำให้กู้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินถูกกฏหมาย
ความเดือดร้อนทางการเงินเกิดขึ้นได้กับทุกคน และครั้งต่อไปที่จะทำการกู้ยืมเงิน แนะนำให้กู้ยืมเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ถูกกฏหมาย จะดีกว่า ดอกเบี้ยถูกกว่ากันเห็น ๆ และเดี๋ยวนี้ก็กู้เงินได้ง่ายมากขึ้นแล้วด้วย
รับมือกับแอปทวงหนี้นั้นไม่ยาก และส่วนใหญ่ใครที่มีประสบการณ์กับตัวเองแล้วจะไม่พลาดซ้ำสอง อย่าลืมแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ได้รับรู้ และวิธีป้องกันแก้ไข